Monday, January 15, 2007

Day 2 : (30 ธ.ค. 49) Cairo - Alexandria


ในที่สุดเวลา 9 ชั่วโมงที่บินอยู่บนฟ้าก็สิ้นสุดลง เรามาถึงไคโร ตามเวลาท้องถิ่นก็ประมาณ 6.30 เดินออกจากเครื่องด้วยการงัวเงีย แทบไม่น่าเชื่อตัวเองว่าได้มาเหยียบทวีปแอฟริกา สู่ลุ่มแม่น้ำไนล์ ดินแดนอารยธรรมโบราณลี้ลับแห่งนี้ เพราะยังเป็นช่วงเช้าตรู่ หมอกจึงลงหนาตาพอสมควร และได้สัมผัสอากาศหนาวสมใจ (ประมาณ 12-15 องศา )
และตามประสาของคนที่เดินทางต่างประเทศครั้งแรก เห็นอะไรก็ตื่นตะลึงไปหมด ผ่าน ต.ม. ด้วยใจตึกตั๊ก กลัวไม่ได้เข้าประเทศ แม้ ต.ม.จะไม่ถามอะไร ให้เราผ่านมาได้ง่าย ๆ แต่สายตาของเค้า มันน่ากลัวจริง ๆ ออกจากสนามบิน เราขึ้นรถต่อไปยังเมือง Alexandria















หลังออกจากสนามบินไคโรเราก็นั่งรถมุ่งหน้าไปที่เมืองอเล็กซานเดรีย เส้นทางที่ใช้ขับผ่ากลางเมืองไคโร เหลียวมองสองข้างทางตลอดเวลาด้วยความตื่นเต้น สำรวจดูสิว่าจะเหมือนจะแตกต่างจากกรุงเทพฯแค่ไหน ออกจากนอกเมืองไคโรแล้วจะได้เห็นภูมิประเทศกึ่งทะเลทราย มีก้อนกรวดก้อนหิน เนินหิน ไม่ได้เป็นทะเลทรายละเอียดซะทีเดียว จะผ่านพื้นที่ที่ทำการเพาะปลูกการเกษตร เห็นที่ปลูกมากก็จะเป็นอินทผลัม กล้วย ถั่ว มองเพลิน ๆ ก็ชวนให้นึกว่าเป็นเมืองเพชรบุรีได้เหมือนกัน ผ่านไปชั่วระยะหนึ่งวิวเริ่มซ้ำ ความตื่นเต้นเริ่มหาย ความง่วงเข้าครอบงำ แล้วผ่านอะไรมาบ้างก็ไม่รู้แล้ว


จุดแรกที่แวะกลางทางคือปั๊มน้ำมันกลางทาง
มีร้านมินิมาร์ทเล็ก ๆ และร้านกาแฟหอมฉุยชวนละเลียด
มีนักท่องเที่ยวและชาวอียิปต์แวะพักพอสมควร ทำให้มีบรรยากาศสดชื่นดี
แต่มีคนเตือนไว้ว่าที่นี่อะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด แล้วก็เป็นจริงตามที่เตือน สิ่งที่ต้องเตรียมไว้เยอะ ๆ ก็ต้องเป็นเงินเศษ 1 ปอนด์อียิปต์ (6 บาท)ไว้เข้าห้องน้ำ ห้องน้ำทุกที่จะมีพนักงานบริการคอยเก็บเงิน และบริการทิชชู่ให้ แต่ก็ยกเว้นในร้านอาหารและโรงแรมบางที่ ที่ไม่เก็บเงิน

(ขอถ่ายรูปกับตำรวจอียิปต์ซะเลย กับไกด์กน้าร้านกาแฟหอมฉุย)


เดินทางอีกซักพัก เราก็ถึงเมือง Alexandria
เป็นเมืองท่าที่อยู่ติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นเมืองหลวงเก่าสมัยการปกครองของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ยกทัพเข้ามายถึงอียิปต์ และทิ้งแม่ทัพไว้ให้ปกครองอียิปต์ในนามราชวงศ์ปโตเลมี ถึงแม้จะมีฟาโรห์ปกครองอยู่ แต่ฟาโรห์ยุคกรีกก็ไม่ใช่คนอียิปต์ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เมืองนี้มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบกรีกซะส่วนมาก











No comments: