พักทานอาหารกลางวันเป็นบุฟเฟ่ห์อาหารอียิปต์ หลายอย่างได้กลิ่นเครื่องเทศแล้วชวนสยอง แต่ที่อร่อยไม่น้อยก็ต้องเป็นพวกไก่ทอด ปลาทอด ....แต่ขณะนี้ อะไรเราก็ทานได้หมด ยังมีโปรแกรมที่ต้องไปเมมฟิสและซัคคารา ต้องกินเอาแรงก่อน
นับว่าเป็นโชคดีของเรา ที่มาอียิปต์ช่วงฤดูหนาว (มค.- กพ.) อากาศเย็นและสบายตัว ไม่อย่างนั้นคงเที่ยวไม่สนุก เพราะถ้ามาช่วงฤดูร้อนที่นี้จะร้อนมาก ร้อนนรกแตก อุณหภูมิกลางทะเลทรายประมาณ 45 องศา เดินเที่ยวเล่นเย็น ๆ ใจอย่างที่เราทำอยู่คงจะยากมาก ๆ ทีเดียว
ช่วงนี้ไม่มีรูปจ๊ะ กล้องแบตหมด ได้แต่ทำหน้าจ๋อย รอคนเห็นใจ หรือยื่นหน้าไปขอถ่ายกับเค้า ก็ต้องรอให้เค้าส่งรูปมาให้ก่อนแล้วจะมา Update ให้ค่ะ
ออกเดินทางสู่เมืองเมมฟิสเมืองหลวงเก่าของอียิปต์ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาทีเราก็มาถึงจุดหมายพิพิธภัณฑ์เมืองเมมฟิส (จริง ๆ แล้วนั่งหลับมา อิ่มแล้วหนังตาก็หย่อนเป็นธรรมดา) พิพิธภัณฑ์ที่นี่ก็ขนาดเล็ก และก็วางไว้ตามสบายไม่มีหลังคาหรือตู้ใส่ มองดูเผิน ๆ เหมือนไม่มีอะไรแต่สิ่งที่ไกด์เราอยากนำเสนอคือรูปแกะสลักขนาดมหึมาของรามเสสที่ 2


สฟิงซ์ตัวนี้ค้นพบมาจากเมืองเมมฟิสนี้ค่อนข้างสมบูรณ์แต่ไม่พบหลักฐานว่าเป็นของฟาโรห์องค์ใด ชื่ออะไร จากความรู้ที่ถูๆ ไถ ๆ ศึกษามา และไม่ได้ตั้งใจฟังไกด์ สฟิงซ์ถูกสร้างตอนที่ฟาโรห์ยังมีชีวิตอยู่หรือว่าเสียชีวิตไปแล้วให้ดูได้จากเคราของสฟิงซ์ ถ้าเครามีลักษณะปลายงอนขึ้นอย่างสฟิงซ์ตัวนี้แสดงว่าถูกสร้างตอนฟาโรห์เสียชีวิตไปแล้ว แต่ถ้าปลายตรงก็ถูกสร้างตอนยังมีชีวิตอยู่ หน้าตาดีเหมือนกันนะเนี้ย
น้องหมาอียิปต์ มีนิสัยรับแขกอย่างน่ารักน่าชัง ดูเพลิน ๆ นึกว่าสฟิงซ์
อดที่จะตื่นเต้นและแปลกใจไม่ได้ เพราะประเทศมุสลิมส่วนใหญ่ไม่นิยมเลี้ยงหมาค่ะ
No comments:
Post a Comment